ข่าวสาร

หน้าแรก >  ข่าวสาร

แนวทางความปลอดภัยสำหรับการเดินเครื่องเครื่องปั่นไฟด้วยก๊าซ LPG

Sep 26, 2025

เรียนรู้วิธีการทำงานของเครื่องปั่นไฟด้วยก๊าซ LPG ก่อน

การเรียนรู้วิธีการทำงานของเครื่องปั่นไฟก๊าซ LPG ก่อนใช้งานมีความสำคัญมาก เมื่ออยู่ในสถานะของเหลว ก๊าซ LPG ซึ่งเป็นชื่อย่อของก๊าซปิโตรเลียมเหลว จะถูกเก็บไว้ภายใต้แรงดันและจัดเก็บเป็นของเหลวในถัง เมื่อนำมาใช้งานกับเครื่องปั่นไฟ มันจะเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นก๊าซ ประเภทเครื่องปั่นไฟชนิดนี้มีคุณลักษณะหลายประการ เช่น การจัดเก็บเชื้อเพลิงที่มั่นคงและการเผาไหม้ที่สะอาด ซึ่งต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ต่างจากเครื่องปั่นไฟประเภทอื่นๆ เครื่องปั่นไฟก๊าซ LPG ทำงานด้วยระบบเชื้อเพลิงที่ออกแบบมาเฉพาะเพื่อความปลอดภัยที่เหมาะสม ดังนั้นการใช้เวลาสักเล็กน้อยเพื่อศึกษาชิ้นส่วนต่างๆ และระบบโดยรวมจึงเป็นสิ่งจำเป็น

เลือกสถานที่ที่เหมาะสมในการติดตั้งเครื่องปั่นไฟ

เมื่อติดตั้งเครื่องปั่นไฟแก๊ส LPG คุณต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ก่อนอื่นควรติดตั้งไว้ภายนอกอาคารเสมอ ห้ามติดตั้งภายในบ้าน อู่ซ่อมรถ ใต้ดิน หรือพื้นที่จำกัดใด ๆ เพราะแก๊ส LPG อาจรั่วและสะสมตัวได้ ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายจากไฟไหม้หรือพิษจากแก๊ส และอาจถึงชีวิตได้ แม้อยู่กลางแจ้งก็ตาม เพื่อความปลอดภัย คุณยังต้องแน่ใจว่าบริเวณนั้นมีการระบายอากาศที่เหมาะสม แม้อยู่ภายนอกอาคาร เพื่อให้แก๊สรั่วไหลเล็กน้อยสามารถกระจายตัวได้ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ เช่น เศษไม้กองไว้ ถังเชื้อเพลิง หรือหญ้าแห้ง พื้นผิวพื้นดินจะต้องเรียบและแข็งแรง หากเครื่องปั่นไฟเอียงล้ม อาจทำให้ชิ้นส่วนเสียหายและก่อให้เกิดการรั่วของเชื้อเพลิงได้ นอกจากนี้ ควรตั้งเครื่องห่างจากตัวอาคาร หน้าต่าง และช่องระบายอากาศอย่างน้อยหลายฟุต เพื่อลดความเสี่ยงที่แก๊สจะเข้าสู่ภายในบ้าน

ตรวจสอบเครื่องปั่นไฟก่อนใช้งานทุกครั้ง

คุณไม่ควรมองข้ามปัญหาด้านความปลอดภัยหลายประการโดยการตรวจสอบเครื่องปั่นไฟก๊าซ LPG อย่างรวดเร็วก่อนใช้งาน เริ่มต้นจากการตรวจสอบจุดต่อท่อน้ำมัน—ท่อ วาล์ว และข้อต่อ—เพื่อดูว่ามีรอยแตกร้าว หลวม หรือผุกร่อนจากความแห้งหรือไม่ รวมถึงการรั่วซึม ให้ฉีดสบู่ละลายน้ำบางๆ ลงบนจุดต่อ หากเห็นฟองเกิดขึ้น แสดงว่าจุดต่อนั้นมีการรั่ว ห้ามใช้เครื่องปั่นไฟจนกว่าจะได้รับการซ่อมแซมเรียบร้อย จากนั้นตรวจสอบระดับเชื้อเพลิง ให้มั่นใจว่ามีก๊าซ LPG เพียงพอสำหรับการใช้งาน แต่อย่าเติมถังมากเกินไป การหกล้นของเชื้อเพลิงเมื่อก๊าซร้อนสามารถทำให้เกิดความเสียหายรุนแรง รวมถึงอาการไหม้ได้ สุดท้าย ตรวจสอบเครื่องปั่นไฟโดยรวม เพื่อดูว่ามีสายไฟขาด น็อตหลวม หรือชิ้นส่วนสกปรกหรือไม่ หากพบสิ่งเหล่านี้ เครื่องปั่นไฟจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาโดยผู้เชี่ยวชาญก่อนการใช้งาน

ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้องในการสตาร์ทและหยุดเครื่องปั่นไฟแก๊ส LPG เสมอ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งานและตัวเครื่องเอง ให้ปรับสวิตช์ทั้งหมดไปที่ตำแหน่ง "ปิด" จากนั้นค่อยๆ เปิดวาล์วเชื้อเพลิงอย่างเบามือ การเปิดเร็วเกินไปจะทำให้เกิดแรงดันแก๊สพุ่งเข้าระบบอย่างฉับพลัน ควรรอสักครู่ให้แก๊สเต็มระบบก่อนดำเนินการต่อไปยังขั้นตอนการสตาร์ทด้วยการหมุนกุญแจจุดระเบิดหรือดึงสายสตาร์ท (ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องปั่นไฟ) จากนั้นให้เครื่องทำงานที่รอบต่ำประมาณหนึ่งถึงสองนาที เพื่ออุ่นเครื่องก่อนใช้งานกับอุปกรณ์ใดๆ ส่วนขั้นตอนการหยุดเครื่อง ต้องปิดอุปกรณ์ทั้งหมดที่ต่อพ่วงกับเครื่องปั่นไฟก่อน จากนั้นรอให้เครื่องเย็นตัวลง หลังจากนั้นจึงปิดวาล์วเชื้อเพลิงและปิดสวิตช์จุดระเบิด ข้อควรระวังสำคัญประการหนึ่งคือ ห้ามหยุดเครื่องปั่นไฟแบบทันทีทันควันขณะที่กำลังจ่ายไฟให้โหลดหนัก เพราะอาจทำให้เครื่องเสียหายอย่างรุนแรง

รักษามาตรฐานความปลอดภัยของเชื้อเพลิง

เป็นสิ่งสำคัญยิ่งที่ต้องรู้ว่าควรปฏิบัติตามแนวทางใดบ้างเมื่อใช้เครื่องปั่นไฟที่ใช้ก๊าซ LPG ควรตรวจสอบและแก้ไขปัญหาของถังก๊าซ LPG เสมอก่อนการใช้งาน ห้ามใช้ถังที่มีสนิม บุบ หรือมีวาล์วเสียหายโดยเด็ดขาด เมื่อต่อถังเข้ากับเครื่องปั่นไฟ ต้องแน่ใจว่าข้อต่อเชื่อมต่อแน่นหนา แต่ห้ามขันแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้เกลียวบวมได้ง่าย สูบบุหรี่หรือใช้เปลวไฟเปิดโล่งใดๆ ก็ตาม เช่น ไฟแช็กหรือเทียนไข โดยเฉพาะบริเวณใกล้เครื่องปั่นไฟหรือถังก๊าซ LPG ถือเป็นสิ่งต้องห้ามอย่างยิ่ง แม้แต่ประกายไฟเล็กน้อยก็อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงหากมีก๊าซรั่วไหล นอกจากนี้ ต้องปิดเครื่องปั่นไฟ LPG ก่อนถอดถังก๊าซทุกครั้ง และต้องปิดวาล์วปรับแรงดันก่อนถอดถังเก่าออก

ถัง LPG เพิ่มเติมควรจัดเก็บในพื้นที่เปิดกว้าง โดยตั้งถังในแนวตั้งและต้องอยู่ห่างจากแสงแดดโดยตรง รวมถึงต้องไม่มีแหล่งความร้อน เช่น เตา หรือกองเพลิงอยู่ใกล้เคียง แม้แต่แสงแดดที่ส่องกระทบเบาๆ ก็ควรหลีกเลี่ยง นอกจากนี้ไม่แนะนำให้วางซ้อนถัง และต้องยึดถังแต่ละใบให้มั่นคงเพื่อป้องกันการล้มคว่ำ

คอยสังเกตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขณะที่กำลังทำงาน

การเฝ้าสังเกตเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแก๊ส LPG ขณะที่ทำงานเป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญอย่างจริงจัง ตรวจสอบให้มั่นใจว่าคุณสามารถได้ยินเสียงของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เพื่อระบุปัญหาการใช้งานที่ร้ายแรง เช่น เสียงผิดปกติ กลิ่นแก๊ส หรือกลิ่นควัน หากคุณตรวจพบกลิ่นแก๊สขณะที่เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากำลังทำงาน ให้รีบปิดเครื่องทันที ปิดวาล์วเชื้อเพลิง แล้วรีบออกจากบริเวณนั้น รอให้แก๊สจางตัวลง แล้วตรวจสอบหาจุดรั่วของแก๊สด้วยวิธีการที่คุณเคยทำมาก่อนอย่างเป็นระบบ ตรวจสอบอุณหภูมิให้แน่ใจ หากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าร้อนเกินไป ให้ปิดเครื่องจนกว่าจะเย็นลง การเสียบอุปกรณ์หลายเครื่องพร้อมกันก็เป็นความคิดที่ไม่ดีเช่นกัน เครื่องปั่นไฟทุกเครื่องมีขีดจำกัดด้านกำลังไฟ โปรดอ่านคู่มืออย่างระมัดระวัง ยึดตามขีดจำกัด และหลีกเลี่ยงการใช้งานเกินพิกัดของเครื่องปั่นไฟ เครื่องปั่นไฟอาจร้อนเกินไป ทำให้เครื่องยนต์เสียหายอย่างรุนแรง หรืออาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ได้

บำรุงรักษาเป็นประจำ

การบำรุงรักษาเป็นประจำจะช่วยให้เครื่องปั่นไฟแก๊ส LPG ทำงานได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นเป็นเวลานาน พยายามปฏิบัติตามกำหนดการบำรุงรักษาที่ระบุไว้ในคู่มือเครื่องปั่นไฟ ซึ่งโดยปกติจำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำมัน เปลี่ยนหรือทำความสะอาดไส้กรองอากาศ และตรวจสอบหัวเทียนจุดระเบิด ขึ้นอยู่กับคู่มือ น้ำมันที่สกปรกหรือน้ำมันที่อยู่ในเครื่องปั่นไฟมานานควรเปลี่ยนทุกๆ ไม่กี่เดือน ควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศที่สกปรก หากยังสามารถทำความสะอาดได้ ควรนำออกมาแล้วทำความสะอาด ควรตรวจสอบหัวเทียนว่ามีการสึกหรอหรือสกปรกหรือไม่ หากหัวเทียนอยู่ในสภาพไม่ดี เครื่องปั่นไฟจะสตาร์ทได้ยากหรือทำงานไม่สม่ำเสมอขณะเดินเบา อย่าลืมทำความสะอาดเครื่องปั่นไฟเพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรก ฝุ่น และเศษวัสดุที่อาจทำให้เกิดความร้อนสูงเกินไป
หากคุณไม่สามารถดำเนินการบำรุงรักษาใดๆ ได้ ให้ติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำ

การเตรียมพร้อมสำหรับเหตุฉุกเฉิน

แม้ว่าจะได้ดำเนินมาตรการป้องกันทุกอย่างแล้ว เหตุฉุกเฉินก็ยังอาจเกิดขึ้นได้อยู่ดี ดังนั้น การรู้ว่าควรทำอะไรในขณะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ตัวอย่างเช่น หากเกิดไฟลุกไหม้จากเครื่องปั่นไฟที่ใช้แก๊ส LPG และถ้าปลอดภัยพอ ควรปิดวาล์วเชื้อเพลิงทันที แต่หากไฟลุกลามใหญ่จนควบคุมไม่ได้ อย่าลังเลที่จะโทรแจ้งหน่วยดับเพลิงและอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย ในกรณีที่มีบุคคลเริ่มรู้สึกไม่สบายเนื่องจากการสัมผัสก๊าซ เช่น รู้สึกเวียนหัว คลื่นไส้ หรือหายใจลำบาก ควรนำบุคคลนั้นไปยังพื้นที่โล่งทันที และเรียกขอความช่วยเหลือทางการแพทย์